TOYOTA VIOS  2017 โฉมใหม่  

“All IS POSSIBLE ทุกสิ่งสามารถ ทุกทางเป็นไปได้”

 

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์นั่งขนาดเล็ก “VIOS”ใหม่ ที่พัฒนาจากความร่วมมือของวิศวกรชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ร่วมกันออกแบบให้ VIOS ใหม่มีความหรูหรา ล้ำสมัย ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน รวมถึงความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม”

Toyota เปิดตัวรถยนต์นั่งซีดานขนาดเล็กรุ่นแรกในชื่อ “SOLUNA” เข้าสู่ตลาดเมืองไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2540 ภายใต้ความร่วมมือของวิศวกรชาวไทยและชาวญี่ปุ่นที่วิจัยและพัฒนารถยนต์ โซลูน่า ให้เป็นรถยนต์นั่งรุ่นแรกที่สร้างขึ้นมาเพื่อตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะ ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นที่ 2 ในนาม “Soluna VIOS” มาจนถึงรุ่นที่ 3 ในปี พ.ศ. 2550 และรุ่นที่ 4 ในปี พ.ศ. 2556 โดยใช้ชื่อว่า “VIOS” เป็นต้นมา ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาโตโยต้าได้มีการออกแบบและพัฒนารถยนต์ VIOS ให้เป็นสุดยอดยนตรกรรมคุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า และครองความนิยมในฐานะรถยนต์นั่งขนาดเล็กเคียงคู่สังคมไทยมาโดยตลอด ยืนยันได้จากการเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ประสบความสำเร็จสามารถครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยยอดขายสะสมตั้งแต่เปิดตัวจนถึงปัจจุบันที่มากกว่า 847,910 คัน

 

ภายนอก ปรับโฉมแตกต่างจากเดิมชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์รมดำ พร้อมไฟ แอลอีดี มีรูปทรงที่โค้งมนขึ้น เพิ่มไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบแอลอีดีในแนวตั้งบริเวณมุมกันชนหน้า และไฟตัดหมอกทรงกลม (ยกเว้นรุ่น J) กระจังหน้าแนวใหม่ทรงเฉียง มือจับประตูโครเมียม  กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ไฟท้ายแอลอีดีออกแบบใหม่ หรูหรามากขึ้น คิ้วฝากระโปรงท้ายตกแต่งด้วยแถบโครเมียม มิติตัวรถ ยาว 4,420 มม. กว้าง 1,700 มม. สูง 1,475  มม. ระยะฐานล้อ 2,550 มม.

 

 

ห้องโดยสาร ของ วีออส เอส ตกแต่งด้วยโทนสีดำสลับแดง คอนโซลหน้าตรงกลาง  ตกแต่งด้วยวัสดุสี “เพียโนแบลค” สลับด้วยกรอบและทิมแผงข้างประตูด้วยวัสดุสี แดง ให้อารมณ์สปอร์ต พร้อมวัสดุขึ้นรูปลายตะเข็บเหมือนรถหรู เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง (TOP) สไตล์สปอร์ต ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้จุดเด่นเรื่องตำแหน่งวางแก้วน้ำที่อยู่บริเวณด้านล่างของช่องแอร์ด้านซ้าย/ขวา นอกจากจะหยิบได้สะดวกแล้ว ลมจากระบบปรับอากาศยังช่วยให้เครื่องดื่มคงความเย็นไว้ได้นานขึ้นด้วย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น แบบ 3 ก้าน  มาตรวัด 3 ช่อง ออกแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ไฟ ECO แสดงผลเมื่อขับขี่ได้ประหยัด  จอแสงดข้อมูลการขับขี่ MID แสดงระยะทาง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย อัตราสิ้นเปลืองขณะใช้งาน ความเร็วเฉลี่ย ระยะทางที่วิ่งได้ วัดจากปริมาณน้ำมันในถัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พ้อมจอแสงดผลแบบ LCD ติดตั้งเครื่องเล่น วิทยุ CD DVD MP3 MP4  หน้จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อแบบไร้สาย มีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบ PUSH สตาร์ทที่ทันสมัย

 

 

 

เครื่องยนต์ รหัส 2 NR-FBE เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-I (วาล์วแปรผันสองฝั่ง) ให้กำลังสูงสุด 108 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. กับแรงบิดสูงสุด 14.3 กก.-ม. ที่ 4,200 รตน. และสามารถรองรับเชื้อเพลิง ทั้ง เบนซิน 91, แกสโซฮอล อี 10, อี 20 หรือ อี 85 ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที 7 จังหวะ พร้อม Sequential Shift ทำงานร่วมกันกับคันเร่งไฟฟ้าที่มีความแม่นยำสูง

 

ระบบรองรับ หน้าแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม เหล็กกันโคลง ปรับจังหวะค่าการทำงานของโช้คอัพให้เหมาะสมกับความแข็งของสปริงที่เปลี่ยนไป ทำให้การขับขี่มั่นคงทั้งทางตรงและทางโค้ง แต่ยังคงไว้ในเรื่องของความนุ่มนวล เหมาะกับการใช้งานบนท้องถนนเมืองไทย พวงมาลัยเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) ควบคุมง่ายที่ความเร็วต่ำหรือในที่แคบ และมั่นคงที่ความเร็วสูง

 

 

ระบบเบรก แบบจานเบรกทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบป้องกันล้อล็อค ABS ระบบบเสริมแรงเบรก BA ระบบกระจายแรงเบรก EBD ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) และระบบป้องกันล้อหมุนพรี TRC (Traction Control)โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ล้ออัลลอยสำหรับ วีออส ใหม่ เป็นลายก้าน เป็นแบบรมดำ ในรุ่น S ขนาด 16 นิ้ว กับยางขนาด 195/50 R 16 ส่วนในรุ่น G/E/J เป็นให้ล้ออัลลอย ขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 185/60R15 อุปกรณ์มาตรฐาน

นอกจากนี้ โตโยต้า ยังมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าเพื่อร่วมสัมผัสและทดลองขับรถยนต์ VIOS  ใหม่ ในวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ 2560 พร้อม ลุ้นรับ iPhone7 รวม 100 รางวัล และข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าโตโยต้าเมื่อซื้อรถยนต์ VIOS ใหม่ ได้ที่โชว์รูมโตโยต้า 464 แห่งทั่วประเทศ โดย VIOS ใหม่  มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น 6 สี และมีเป้าหมายการขายที่ 2,600 คันต่อเดือน”  

Toyota Vios 2017 ใหม่ มี 4 รุ่น 6 สี ให้เลือก

(Red Mica Metallic/ Super White/ Silver Metallic/Gray Metallic/ Attitude Black Mica/ Quartz Brown Metallic)

  • 5 S เกียร์อัตโนมัติ ราคา    789,000 บาท**                                    

  • 5 G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 729,000 บาท**

  • 5 E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 679,000 บาท**

  • 5 J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 609,000 บาท**