ทดสอบโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 2.4 วี รุ่นท็อป ซิกมาร์โฟร์

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ชวน carinner ลุยไปกับ ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.4V ซิกม่าโฟร์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ เส้นทาง กรุงเทพฯ-เขาใหญ่ 

ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นปี 2017 ติดตั้งระบบดิสท์เบรก ทั้ง 4 มาครบทุกรุ่น เทียบชั้นคู่แข่ง อย่าง ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ 2.2l และมิซูบิขิ ปาเจโรสปอร์ต 2.4l รุ่นท็อป เพราะต่างจัดเต็มเรื่องเบรก  พี่ใหญ่ในตลาดอย่างโตโยต้าหรือจะยอมเสียหน้านาน แถมยังเพิ่ม เบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้า เพื่อยกระดับความหรูหรา อีกด้วย

ภายนอกหล่อแบบรุ่นท็อป ไฟหน้าแบบ ไบ-บีม ไฟแอลอีดี โปรเจ็คเตอร์ และ ไฟตัดหมอกหน้าแบบ แอลอีดี แบบใหม่ล่าสุด  กระจังหน้าและกันชนหน้าแบบเดิม เสารับสัญญาณวิทยุ แบบครีบ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว มีระบบ WELCOME LIGHT ไฟตัดหมอกหน้า/หลัง ราวหลังคาทรงสปอร์ต มีสปอยเลอร์หลัง เปลี่ยน บันไดข้าง กระจกไฟเลี้ยว และไฟเบรก ดวงที่ 3  ออกแบบใหม่  แบบแอลอีดี ไฟท้าย แบบเส้นนำแสง แอลอีดี ล้อแม็กลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว ยางขนาด 265/60 R18

ห้องโดยสาร ออพชั่นเพียบไม่แพ้ รุ่น 2.8 วี หรูหราทันสมัย มาตรวัดเรืองแสงออพติทรอน พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID พวงมาลัยหุ้มหนังสปอร์ต พร้อมระบบมัลติฟังค์ชั่น มีระบบควบคุมการเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครูสคอนโทรล ติดตั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย ติดตั้งปุ่ม PUSH START  เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า ใหม่ล่าสุด  ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มีช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับไฟ 12 โวลท์ และไฟเอซี 220 โวลท์ เบาะแถวที่ 2 ปรับพับแบบวันทัช ประตูท้ายเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ติดตั้งเครื่องเล่นดีวีดี หน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบนำทาง T CONNECT และเชื่อมต่อบลูทูธ

ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นนี้ใช้ เครื่องยนต์รหัส 2GD-FTV (HIGH) ดีเซล คอมมอนเรล GD Efficient Boost 2.4 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผันและอินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร หรือ 40.8 กก.-ม. ที่ 1,600-2,000 รตน. ส่งกำลังผ่าน เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พาร์ทไทม์ แบบซิกม่าโฟร์ มีโหมด H2/ H4 /L4 ให้เลือกครบ ทำงานร่วมกับระบบ DAC และ A-TRC  สามารถเลือกระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง (2H) หรือขับเคลื่อน 4 ล้อแบบใช้ความเร็วสูง (4H) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4L) ในโหมดที่ต้องลุย แบบเน้นแรงบิดที่ความเร็วต่ำ  ช่วยควบคุมการทำงานในเส้นทางลุยได้ดี ด้วยระบบ A-TRC หรือ Active Traction Control คอยควบคุมระบบเบรคให้ทำงานกับล้อที่เกิดอาการหมุนฟรี และเน้นการส่งกำลังไปยังล้อตำแหน่งอื่นให้ เพื่อการยึดเกาะที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ DAC หรือ Downhill Assist Control ควบคุมให้รถลงทางลาดชันด้วยความเร็วต่ำอย่างคงที่โดยไม่ต้องกดคันเร่ง  เมื่อติดตั้ง ระบบเบรกแบบดิสท์เบรคทั้ง 4 ล้อ ทำให้การทำงานของระบบง่าย รวดเร็วและ แม่นยำขึ้น

เส้นทางการทดสอบครั้งนี้ ได้ลองบนถนนใหญ่ มีคดเคี้ยวบ้าง   ต้องกดคันเร่งใช้ความเร็วและจังหวะเร่งแซงอยู่ตลอด เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร  150 แรงม้า บล๊อคนี้ สัมผัสได้ทันทีว่า มันให้กำลังเพียงพอสำหรับขับใช้งานทั่วไป เมื่อใช้ความเร็วสูง ค้องอาศัยเดินคันเร่งรอ ความเร็วจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ความเร็วปลาย ทำได้ถึง 180 กม./ชม.

ขับลุยในทางออฟโรด ได้ไม่เลว แรงบิดที่ให้มา จัดว่าเพียงพอในการลุย ระบบขับเคลื่อน 4 แบบพาร์ทไทม์ เลือกเข้าโหมด 4L และใช้ความเร็วต่ำ อาศัยรอบเดิมเบา ประมาณ 1,200-1,500 รอบต่อนาที ก็สามารถเคลื่อนตัวผ่านอุปสรรคได้อย่างไม่ยากเย็น ช่วงล่างนุ่มนวลให้ตัวดี  ระบบการทำงานต่าง ๆ ก็สั่งงานได้อย่างแม่นยำ

ช่วงล่างนุ่มนวล ให้ตัวดีตามสไตล์รถตลาด  เซ็ทระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบโฟร์ลิงค์ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ระบบเบรก แบบดิสก์ 4 ล้อ ใหม่ล่าสุด ทั้งด้านหน้าและหลัง  พร้อมเอบีเอส ระบบป้องกันล้อล็อค อีบีดี ระบบกระจายแรงเบรก และบีเอ ระบบเสริมแรงเบรก ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว วีเอสซี ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ทีอาร์ซี ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน เอชเอซี ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ดีเอซี

ทดสอบการใช้งานระบบ DAC ผู้ขับไม่จำเป็นต้องกดคันเร่ง แต่อาศัยแรงบิดของเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร รถจะค่อย ๆ ลุยผ่านอุปสรรคด้วยความเร็วคงที่

ทดสอบระบบ HAC หรือ Hillstart Assist Control ลงทางลาดชัน ประมาณ 40 องศา  เริ่มตากหยุดรถบนจุดที่ชันที่สุด และปล่อยคันเร่ง ระบบเบรกจะทำงาน พร้อมกับสั่งหยุดตัวรถ ประมาณ 3 วินาที ป้องกันการไหลลงทางลาดชันขณะถอนเท้าจากแป้นเบรกมาที่คันเร่ง

ขับผ่านเนินสลับซ้าย/ขวา เพื่อทดสอบการทำงานของระบบ A-TRC การบังคับควบคุมยังทำได้ดี ตัวรถเคลื่อนผ่านอุปสรรคอย่างช้า ๆ ด้วยรอบเดินเบาเครื่องยนต์ สามารถเคลื่อนผ่านอุปสรรคอย่างสบาย

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 2.4 วี ซิกมาร์4 ตั้งราคาไว้ที่ 1,499,000 บาท  อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เทียบเท่ารุ่นทอพ 2.8วี  ซิกมาร์4  ราคาต่างกันแสนกลาง ๆ ได้เครื่องยนต์คนละบล๊อค ใครที่ไม่เน้นอัตราเร่ง ขับเรื่อย ๆ สบายอารมณ์ ลุยได้ไม่อายใคร แถมประหยัดน้ำมัน รุ่นนี้ตอบโจทย์สบาย แต่ถ้าชอบการตอบสนองอัตราเร่งดี เร่งแซงทันใจ เพิ่มเงินไปเล่นเครื่องบล๊อคใหญ่ดีกว่า

ชัดเจน ตรงประเด็น

มันเป็นรถที่ ขับดี ขับได้ ใช้งานประหยัดลงตัว แต่ไม่แรงนะจ๊ะ