“ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018” สุดยิ่งใหญ่ “2 นักขับเอฟวัน” ผงาดแชมป์ปีที่ 5

 

“ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018” สุดยิ่งใหญ่ “2 นักขับเอฟวัน” ผงาดแชมป์ปีที่ 5

ศึก ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ ผู้ชมหลายหมื่นทะลัก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ คู่หูอดีตนักขับรถสูตรหนึ่ง เฮกกิ โควาไลเนน และ คามูอิ โคบายาชิ จาก เลกซัส ทีม ซาร์ด ผงาดคว้าแชมป์ปีที่ 5 ขณะทีมไทย เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต และ อาร์โต-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ สู้ขาดใจเข้าป้ายอันดับ 14-15 จากเกมสุดดราม่าเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก ซูเปอร์ จีที 2018 มีคิวดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศสนาม 4 ในรายการ ช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 ในวันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร แข่งขันทั้งสิ้น 66 รอบสนาม

ตำแหน่งโพลในรุ่นใหญ่อย่าง จีที500 เป็นของ ฮิเดกิ มูโตะห์ และ ไดซูเกะ นากาจิม่า จาก ทีม มูเก้น ด้วยรถแข่ง ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที ขนาบข้างด้วย โคอุดาอิ ซึคาโกชิ และ ทาคาชิ โคกูเระ สองนักขับญี่ปุ่นจาก เคฮิน เรียล เรซซิ่ง ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ อดีตนักขับเอฟวันสองคนอย่าง เฮกกิ โควาไลเนน ชาวฟินแลนด์ และ คามูอิ โคบายาชิ ชาวญี่ปุ่นจาก เลกซัส ทีม ซาร์ด

ด้านกริดสตาร์ทในรุ่น จีที300 เป็นของ นาโอย่า กาโมอุ และ ฮารูกิ คุโรซาว่า คู่หูชาวญี่ปุ่นภายใต้รถแข่ง เมอร์เซเดส เอเอ็มจี จีที3 หมายเลข 65 ขนาบข้างด้วย อันเดรีย คัลดาเรลลี่ นักขับอิตาเลียนและ คาซูกิ มิยามิเนะ ทีมเมทชาวญี่ปุ่นในสังกัด เจแอลโอซี ส่วนกริดที่ 3 เป็นของคู่หูชาวญี่ปุ่นอย่าง ฮิโรกิ โยชิดะ และ คาซูกิ โฮชิโนะ จาก ทีม เกนเนอร์

ในปีนี้มีทีมแข่งไทยลงดวลความเร็วในบ้านเกิด 2 ทีม ในรุ่น จีที300 โดยทีมที่ได้สิทธิ์ไวด์การ์ดอย่าง เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต ขับโดยดาวโรจน์ชาวไทยอย่าง กันตธีร์ กุศิริ และทีมเมทชาวฝรั่งเศส แม็กซิม จูสส์ ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 10 ส่วน อาร์โต้-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ ซึ่งลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยการขับของคู่หูจอมเก๋าอย่าง ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และ ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ ได้ออกตัวจากกริดที่ 17

แม็กซิม จูสส์ ทำหน้าที่เป็นนักขับคนแรกของ เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต และออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยมทะยานจากกริดที่ 10 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 ได้ตั้งแต่รอบแรกของการแข่งขัน และขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 ในรอบที่ 6 อย่างไรก็ดี จากจังหวะออกตัวที่จั๊มป์สตาร์ทส่งผลให้ทีมแข่งไทยโดนลงโทษไดรฟ์ทรู ทำให้ร่วงลงไปอยู่ในอันดับสุดท้าย ด้าน ณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นนักขับคนแรกของ อาร์โต-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ ขยับจากกริดที่ 17 ขึ้นมารั้งอันดับ 14 ในรอบที่ 18

จากนั้นในรอบที่ 24 แม็กซิม จูสส์ เข้าพิตเพื่อเปลี่ยนตัวนักขับให้ กันตธีร์ ลงมาทำหน้าที่ต่อ โดยในช่วงกลางเรซก่อนเปลี่ยนตัวนักขับ ณัฐพงษ์ พาทีมไทยขึ้นไปอยู่สูงถึงอันดับ 5 ก่อนจะส่งหน้าที่ต่อให้ ณัฐวุฒิ ลงมาขับในช่วงครึ่งหลังของเรซ

จบการแข่งขันในรุ่น จีที300 แชมป์ตกเป็นของรถแข่ง นิสสัน จีทีอาร์ หมายเลข 11 จาก ทีม เกนเนอร์ ขับโดย คัตซึยูกิ ฮิรานากะ และ ฮิโรโนบุ ยาซูดะ สองนักขับญี่ปุ่นหลังซิ่งครบ 61 รอบสนาม ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 38 นาที 1.838 วินาที ตามด้วยรถแข่ง โตโยต้า พรีอุส จีที จากสังกัด เอพีอาร์ หมายเลข 31 ขับโดย โคกิ ซากะ และโคเฮอิ นิราเตะ ตามหลัง 3.569 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของรถแข่ง ซูบารุ บีอาร์ซี หมายเลข 60 จาก แอลเอ็ม คอร์ซ่า ขับโดย ฮิโรกิ โยชิโมโตะ และ ริโตโมะ มิยาตะ ตามหลังแชมป์ 8.712 วินาที

ด้านทีมแข่งไทยฮึดสู้เต็มที่ตลอดทั้งเรซ โดย กันตธีร์ พารถแข่ง เบนต์ลีย์ คอนติเนนทัล หมายเลข 32 จาก เอสต์ โคล่า บาย เอเอเอส มอเตอร์สปอร์ต จบการแข่งขันในอันดับ 14 ตามด้วย ณัฐวุฒิ ในรถแข่ง เลกซัส อาร์ซี เอฟ จีที3 หมายเลข 35 จาก อาร์โต-แพนเธอร์ ทีม ไทยแลนด์ ในอันดับ 3

ขณะที่เกมการแข่งขัน 66 รอบสนาม ในรุ่นใหญ่อย่าง จีที500 ขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น โดยแชมป์เป็นของรถแข่งเลกซัส แอลซี500 หมายเลข 39 ขับโดยคู่หูอดีตนักขับฟอร์มูล่าวันอย่าง เฮกกิ โควาไลเน่น ชาวฟินแลนด์ และทีมเมทชาวญี่ปุ่น คามูอิ โคบายาชิ จากสังกัด เลกซัส ทีม ซาร์ด ที่ออกสตาร์ทจากกริดที่ 3 ก่อนพลิกขึ้นในในช่วงกลางเรซและเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลารวม 1 ชั่วโมง 36 นาที 42.825 วินาที

ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของ รถแข่งเลกซัส แอลซี500 หมายเลข 6 จาก เลกซัส ทีม เลอ มองส์ วาโกะส์ ขับโดย คาซูยะ โอชิม่า นักขับญี่ปุ่นและ เฟลิกซ์ โรเซนควิสต์ ทีมเมทชาวสวีดิช ตามหลังแชมป์เพียง 2.860 วินาที เท่านั้น ขณะที่อันดับ 3 ตกเป็นของ รถแข่งเลกซัส แอลซี500 หมายเลข 19 จาก เลกซัส ทีม เวดสปอร์ต บันโดะห์ ขับโดยสองนักขับญี่ปุ่น ยูจิ คูนิโมโตะ และ เคนตะ ยามาชิตะ ตามหลังแชมป์ 12.969 วินาที

ทั้งนี้ ตลอดทั้ง 3 วันของการแข่งขันมีแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นหลั่งไหลเข้าชมเกมอย่างคับคั่งเป็นจำนวนหลายหมื่นคน สร้างความคึกคักให้กับสุดสัปดาห์แห่งมอเตอร์สปอร์ตที่ บุรีรัมย์ เป็นอย่างมาก

สำหรับการแข่งขัน ซูเปอร์ จีที 2018 สนามถัดไปจะโยกกลับไปดวลความเร็วที่ประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคมนี้ ที่สนาม ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์