กู๊ดเยียร์ เผยผลประกอบการไตรมาส 4 และผลรวมปี 59

บริษัท บริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด สหรัฐอเมริกา เผยผลประกอบการไตรมาส 4 และผลประกอบการรวมปี 2559

มร.ริชาร์ด เจ. เครเมอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “กู๊ดเยียร์มีกำไรสุทธิและรายได้จากการดำเนินงานที่น่าประทับใจในปี 2559 เป็นผลจากการดำเนินงานธุรกิจยางสำหรับรถยนต์นั่งและยางสำหรับรถกระบะที่แข็งแกร่งในภูมิภาคอเมริกาและเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้ผลประกอบการของกู๊ดเยียร์ได้แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตของกำไรที่มั่นคงและต่อเนื่อง รวมทั้งการปฏิบัติการตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างเคร่งครัดจนทำให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ”

 

 

ราคาวัตถุดิบอาจปรับตัวสูงขึ้น และกลายเป็นประเด็นสำคัญในปี 2560 แต่ด้วยความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของกู๊ดเยียร์ ผนวกกับผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับรางวัล และความเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในระดับสากล จะช่วยให้เรานำเสนอคุณค่าที่ตอบโจทย์ได้ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม อีกทั้งยังมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน กู๊ดเยียร์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ในระยะยาวเราเติบโตได้ด้วยดีและประสบความสำเร็จจนสามารถหักกลบความผันผวนของราคาวัตถุดิบได้”

เรายังเชื่อมั่นในกลยุทธ์การสร้างโอกาสเติบโตที่จะสร้างผลกำไรให้แก่หน่วยธุรกิจที่สำคัญในตลาด และยังมั่นใจในการบรรลุเป้าหมายปี 2563 ด้วย

ผลประกอบการของกู๊ดเยียร์ประจำไตรมาส 4 ปี 2559 มีมูลค่า 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา

ยอดขายยางรวม 41.1 ล้านเส้น ลดลงร้อยละ 2 จากปี 2558 โดยปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทนลดลงร้อยละ 1 ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ติดรถลดลงร้อยละ 7 ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากตลาดรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาอ่อนตัวลง

กำไรสุทธิของกู๊ดเยียร์ประจำไตรมาส 4 ปี 2559 มีมูลค่า 561 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.14 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) เทียบกับการขาดทุนสุทธิมูลค่า 380 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) ในไตรมาส 4 ปี 2558 โดยผลประกอบการในปีก่อนได้รับผลกระทบจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา ทั้งนี้ กำไรสุทธิที่ปรับแล้วประจำไตรมาส 4 ปี 2559 มีมูลค่า 249 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (95 เซ็นต์ ต่อหุ้น) เทียบกับมูลค่า 257 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (93 เซ็นต์ ต่อหุ้น) ในปี 2558 ทั้งนี้ ราคาต่อหุ้นเป็นราคาหลังการปรับลด

กู๊ดเยียร์ เผยรายได้จากการดำเนินงานธุรกิจยางในปี 2559 คิดเป็นมูลค่า 479 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับ 480 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2558 ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานในปี 2559 เป็นผลจากการประหยัดต้นทุนสุทธิ อันเนื่องมาจากราคาหรือต้นทุนวัตถุดิบถัวเฉลี่ยหลายชนิด รวมทั้งยอดขายที่ลดลงและการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลาทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานในธุรกิจหลัก โดยไม่รวมเวเนซุเอลานั้น คิดเป็นมูลค่า 458 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ผลประกอบการรวมตลอดทั้งปี
ยอดขายของกู๊ดเยียร์ประจำปี 2559 มีมูลค่า 15.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 8 จากปี 2558 เนื่องจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา และการเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศที่ไม่น่าพอใจ

ยอดขายยางรวมอยู่ที่ 166.1 ล้านเส้น ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปี 2558 มากนัก โดยปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ติดรถลดลงร้อยละ 4 ทั้งนี้ หากไม่รวมการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา จะพบว่ายอดขายยางรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 1

กำไรสุทธิของกู๊ดเยียร์ตลอดปี 2559 มีมูลค่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (4.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) เพิ่มขึ้นจาก 307 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.12 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) ในปี 2558 อันเป็นผลมาจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลาในปี 2558 และการลดลงของภาษีเงินได้ในปี 2559 เนื่องจากการปรับค่าภาษีต่างประเทศ ทั้งนี้ กำไรสุทธิที่ปรับแล้วตลอดทั้งปีมีมูลค่า 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (4.00 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) เพิ่มจากมูลค่า 906 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (3.32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) ในปี 2558 ทั้งนี้ ราคาต่อหุ้นเป็นราคาหลังการปรับลด

บริษัทได้เผยรายได้จากการดำเนินงานในแต่ละหน่วยที่มีมูลค่า 2.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 2 จากปี 2558 เนื่องจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานในแต่ละหน่วย โดยไม่รวมเวเนซุเอลา มีมูลค่า 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2558

มร.ริชาร์ด เจ. เครเมอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “กู๊ดเยียร์มีกำไรสุทธิและรายได้จากการดำเนินงานที่น่าประทับใจในปี 2559 เป็นผลจากการดำเนินงานธุรกิจยางสำหรับรถยนต์นั่งและยางสำหรับรถกระบะที่แข็งแกร่งในภูมิภาคอเมริกาและเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้ผลประกอบการของกู๊ดเยียร์ได้แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตของกำไรที่มั่นคงและต่อเนื่อง รวมทั้งการปฏิบัติการตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างเคร่งครัดจนทำให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ”

มร. เครเมอร์ กล่าวต่อ “กู๊ดเยียร์คาดว่าราคาวัตถุดิบอาจปรับตัวสูงขึ้น และกลายเป็นประเด็นสำคัญในปี 2560 แต่ด้วยความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของกู๊ดเยียร์ ผนวกกับผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับรางวัล และความเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในระดับสากล จะช่วยให้เรานำเสนอคุณค่าที่ตอบโจทย์ได้ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม อีกทั้งยังมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน กู๊ดเยียร์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ในระยะยาวเราเติบโตได้ด้วยดีและประสบความสำเร็จจนสามารถหักกลบความผันผวนของราคาวัตถุดิบได้”

“เรายังเชื่อมั่นในกลยุทธ์การสร้างโอกาสเติบโตที่จะสร้างผลกำไรให้แก่หน่วยธุรกิจที่สำคัญในตลาด และยังมั่นใจในการบรรลุเป้าหมายปี 2563 อีกด้วย”

ผลประกอบการของกู๊ดเยียร์ประจำไตรมาส 4 ปี 2559 มีมูลค่า 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา

ยอดขายยางรวม 41.1 ล้านเส้น ลดลงร้อยละ 2 จากปี 2558 โดยปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทนลดลงร้อยละ 1 ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ติดรถลดลงร้อยละ 7 ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากตลาดรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาอ่อนตัวลง

กำไรสุทธิของกู๊ดเยียร์ประจำไตรมาส 4 ปี 2559 มีมูลค่า 561 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.14 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) เทียบกับการขาดทุนสุทธิมูลค่า 380 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) ในไตรมาส 4 ปี 2558 โดยผลประกอบการในปีก่อนได้รับผลกระทบจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา ทั้งนี้ กำไรสุทธิที่ปรับแล้วประจำไตรมาส 4 ปี 2559 มีมูลค่า 249 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (95 เซ็นต์ ต่อหุ้น) เทียบกับมูลค่า 257 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (93 เซ็นต์ ต่อหุ้น) ในปี 2558 ทั้งนี้ ราคาต่อหุ้นเป็นราคาหลังการปรับลด

กู๊ดเยียร์ เผยรายได้จากการดำเนินงานธุรกิจยางในปี 2559 คิดเป็นมูลค่า 479 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับ 480 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2558 ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานในปี 2559 เป็นผลจากการประหยัดต้นทุนสุทธิ อันเนื่องมาจากราคาหรือต้นทุนวัตถุดิบถัวเฉลี่ยหลายชนิด รวมทั้งยอดขายที่ลดลงและการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลาทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานในธุรกิจหลัก โดยไม่รวมเวเนซุเอลานั้น คิดเป็นมูลค่า 458 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ผลประกอบการรวมตลอดทั้งปี
ยอดขายของกู๊ดเยียร์ประจำปี 2559 มีมูลค่า 15.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 8 จากปี 2558 เนื่องจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา และการเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศที่ไม่น่าพอใจ

ยอดขายยางรวมอยู่ที่ 166.1 ล้านเส้น ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปี 2558 มากนัก โดยปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ติดรถลดลงร้อยละ 4 ทั้งนี้ หากไม่รวมการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา จะพบว่ายอดขายยางรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 1

กำไรสุทธิของกู๊ดเยียร์ตลอดปี 2559 มีมูลค่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (4.74 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) เพิ่มขึ้นจาก 307 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.12 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) ในปี 2558 อันเป็นผลมาจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลาในปี 2558 และการลดลงของภาษีเงินได้ในปี 2559 เนื่องจากการปรับค่าภาษีต่างประเทศ ทั้งนี้ กำไรสุทธิที่ปรับแล้วตลอดทั้งปีมีมูลค่า 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (4.00 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) เพิ่มจากมูลค่า 906 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (3.32 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น) ในปี 2558 ทั้งนี้ ราคาต่อหุ้นเป็นราคาหลังการปรับลด

บริษัทได้เผยรายได้จากการดำเนินงานในแต่ละหน่วยที่มีมูลค่า 2.0 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 2 จากปี 2558 เนื่องจากการไม่นับรวมผลประกอบการของบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานในแต่ละหน่วย โดยไม่รวมเวเนซุเอลา มีมูลค่า 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2558